จากจุดเริ่มต้นทำสวนยางเป็นอาชีพหลัก หลังยางราคาตกต่ำ รายได้ไม่เพียงพอ ทำให้ชาวบ้านบือแน ม. 4 ต.บุดี อ.เมืองยะลา หันมาปลูกพืชผักพื้นบ้าน นำผลผลิตมาขายที่ตลาดเช้าหลังสำนักงานเกษตร จ.ยะลา เพื่อเป็นรายได้เสริม จนปัจจุบัน ความนิยมรับประทานผักพื้นบ้าน ได้สร้างรายได้ให้อย่างงาม เก็บขายครั้งหนึ่ง รวมๆ แล้ว มีรายได้กว่าหนึ่งพันบาท ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
นางพาตีเมาะ โต๊ะมะ ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองมีเนื้อที่ 9 ไร่ โดยทำสวนยางเป็นหลัก ได้เริ่มปลูกผักพื้นบ้านเป็นอาชีพเสริมมานานแล้ว ทำกัน 4-5 คน ญาติๆ ด้วย โดยจะใช้เวลาช่วงว่างในช่วงเช้าก็ไปกรีดยางก่อน หลังจากนั้นก็มาปลูกผัก โดยยึดแนวทางการดำเนินชีวิตตามแบบอย่าง เศรษฐกิจพอเพียง ทฤษฎีใหม่ของในหลวง ร.9
เมื่อก่อนปลูกไม่มีที่ขาย พอกินในครอบครัว ขายใกล้บ้านก็ไม่มีคนซื้อชาวบ้านเค้าก็ปลูกเหมือนกัน พอทางเกษตร จ.ยะลา เปิดให้ขายที่ตลาดเกษตร ก็เริ่มปลูกผักพื้นบ้านหลายชนิด มีที่ขายแล้ว ช่วยได้มาก โดยจะปลูกผสมผสานกัน คิดว่าถ้ามีอย่างเดียวก็อาจจะไม่หมด พอหลายๆ อย่างรวมๆ กันนำมาขาย ก็ขายหมดเกือบทุกวัน ผลผลิตที่จะนำไปขาย ก็จะทุกไปกับรถซาเล้ง ระยะทางจากบ้านถึงตลาดเกษตร ไม่ไกลมากนัก
ส่วนผักที่นำมาปลูก เป็นผักที่ดูแลไม่ยาก ลงทุนไม่มาก ทำร่อง ใส่เมล็ดผัก ใส่ปุ๋ยมูลวัว มูลไก่ ให้น้ำ ขึ้นดี มีทั้ง หัวมัน ชนิดต่างๆ ช่วงนี้หัวมันออกมาก ฤดูฝน ทั้งมันม่วง มันเหลือง มันขาว มันขี้หนู พริก มะเขือพวง มะเขือยาว ข้าวโพด ตะไคร้ ขมิ้น หลายอย่างคละกันไป หมุนเวียนเก็บผลผลิต ซึ่งจะมีตลอดทั้งปี
ถ้าเราขยันมากก็ได้มาก ปลูกเองขายเอง กินทุกอย่าง ปลูกที่กิน ตามความต้องการตลาด ปลอดสารพิษ สำหรับ รายได้แต่ละครั้งที่นำพืชผักไปขาย ก็จะอยู่ที่ 500-2,000 บาท ยางได้วันละ 200 บาท ก็พออยู่ได้ เลี้ยงครอบครัวได้
———————————–