ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไป เป็นระยะอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 และนายกรัฐมนตร์ได้ลงนามในข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25) ประกาศ ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2564 มีผลตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19 ได้มีคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (โควิด – 19) ที่ 6/2564 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งจังหวัดยะลา กำหนดระดับของพื้นที่เป็น “พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด” นั้น
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่จังหวัดยะลา พบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ และเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ จึงมีความจำเป็นต้องกำหนดมาตรการที่เข้มงวดและเร่งด่วน เพื่อการบังคับใช้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ และเป็นการป้องกันและยับยั้งการระบาดของโรคมีให้แพร่ระบาดออกไปในวงกว้างและกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน
นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จังหวัดยะลา โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลา จึงได้ออกคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 จังหวัดยะลา ที่ 133/2564 เรื่อง การดำเนินการตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25) ให้ถือปฏิบัติ ดังนี้
การจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนเสี่ยงต่อการแพร่โรค ห้ามมิให้มีการจัดกิจกรรมทางสังคม งานสังสรรค์ งานเลี้ยง งานเลี้ยงรับ – ส่ง งานฉลองแสดงความยินดีในโอกาสต่างๆ รวมถึงงานรื่นเริงต่างๆ ทุกประเภท การจัดพิธีการตามประเพณีนิยม เช่น งานพิธีการศพ งานอุปสมบท งานมงคลสมรส วันสำคัญทางศาสนาหรืองานบุญ ห้ามมิให้มีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนเกินกว่า 50 คน การจัดกิจกรรมของส่วนราชการ การจัดประชุม อบรม สัมมนา การจัดงานรัฐพิธีต่างๆ ต้องมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่เกิน 50 คน และต้องดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด
มาตรการเกี่ยวกับการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่จังหวัดยะลา ของข้าราชการ พนักงานถูกจ้าง ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดยะลา งดการเดินทางออกนอกพื้นที่จังหวัดยะลา กรณีมีเหตุผลความจำเป็น ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ควบคู่กับเอกสารรับรองความจำเป็นในการเดินทาง
นอกจากนี้ ยังมี มาตรการสำหรับโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาทุกประเภท มาตรการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงาน มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในชุมชน การปราบปรามผู้กระทำผิดที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการแพร่โรค รวมถึง มาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง
ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ถือเป็นความผิดต้องรับโทษตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท และหรือมีโทษตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2564 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564