Thursday, 6 February 2025

ไปถึงสตูล!คลัสเตอร์กลุ่มนักเรียนจากโรงเรียนตะห์ฟีซุลกรุอานมัรกัส ยะลา

17 Jun 2021
489

เมื่อวันที่ (16 มิ.ย. 64) นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยนายแพทย์สมบัติ ผดุงวิทย์วัฒนา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสตูล แถลงต่อสื่อมวลชนกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด–19 ในกลุ่มนักเรียนโรงเรียนตะห์ฟีซุลกรุอานมัรกัสยะลา จังหวัดยะลา ที่เดินทางกลับมาบ้านที่จังหวัดสตูล จำนวน 3 ราย เป็นเพศชาย อายุ 20 ปี อายุ 21 ปี และ อายุ 13 ปี ทั้ง 3 ราย เป็นนักเรียนภูมิลำเนา จังหวัดสตูล นับเป็นรายที่ 22, 23 และ 24 ที่ติดเชื้อในจังหวัดสตูล ทีมสอบสวนโรคสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสตูลร่วมกับหน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเมืองสตูล อำเภอท่าแพ และอำเภอทุ่งหว้า ได้สอบสวนโรค พบว่า

ผู้ป่วยรายที่ 1 เป็นเพศชาย อายุ 20 ปี ภูมิลำเนา หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งหว้า อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล เดินทางกลับสตูล วันที่ 12 มิถุนายน 2564 โดยสารรถตู้ประจำทางยะลา – หาดใหญ่ จำนวนผู้โดยสาร 13 คน ใส่หน้ากากอนามัยทุกคน เวลา 16.00 น. โดยสารรถตู้ประจำทาง หาดใหญ่ – ทุ่งหว้า จำนวนผู้โดยสาร 2 คน ใส่หน้ากากอนามัยทุกคน ถึงอำเภอทุ่งหว้าประมาณ 19.00 น. รถ อบต.ทุ่งหว้า มารับที่หน้าอำเภอทุ่งหว้า เข้าพัก LQ อาคาร 100 ปี ที่ว่าการอำเภอทุ่งหว้า วันที่ 14 มิถุนายน 2564 มีอาการไข้ ปวดศีรษะ ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ วันที่ 14 มิถุนายน 2564  รพ.ทุ่งหว้า เก็บตัวอย่างส่งตรวจที่ห้องปฏิบัติการเอกชน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วันที่ 15 มิถุนายน 2564 ตรวจพบเชื้อ หลังจากนั้น รพ.ทุ่งหว้าส่งรักษาต่อที่ รพ.สตูล ด้วยอาการเหนื่อยหอบ ไอ มีเสมหะ

ผู้ป่วยรายที่ 2 เป็นเพศชาย อายุ 21 ปี ภูมิลำเนา หมู่ที่ 10 ต.ท่าแพ อ.ท่าแพ จ.สตูล เดินทางกลับสตูล วันที่ 12 มิถุนายน 2564 โดยรถไฟสายสุไหงโกลก – สุราษฎร์ธานี ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ลงที่สถานีรถไฟควนเนียง อ.ควนเนียง จ.สงขลา ครอบครัวมารับที่สถานีรถไฟควนเนียงด้วยรถยนต์กระบะ นั่งกระบะท้ายคนเดียว เวลา 13.00 น. ถึง รพ.ท่าแพ มีอาการเจ็บคอ จมูกไม่ได้รับกลิ่น รพ.ท่าแพ เก็บตัวอย่างส่งตรวจ ที่ห้องปฏิบัติการเอกชน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วันที่ 15 มิถุนายน 2564 ผลตรวจพบเชื้อ รับการรักษาที่ รพ.สนามท่าแพ

ผู้ป่วยรายที่ 3 เป็นเพศชาย อายุ 13 ปี ภูมิลำเนา หมู่ที่ 5 ต.ท่าแพ อ.ท่าแพ จ.สตูล เดินทางกลับสตูล วันที่ 12 มิถุนายน 2564 โดยรถยนต์กระบะของครอบครัวเพื่อนร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน นั่งท้ายกระบะทั้ง 3 คน ทุกคนใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ระหว่างทางแวะปั๊ม ปตท.ก่อนถึง อ.จะนะ เพื่อละหมาด และซื้อน้ำที่ร้านสะดวกซื้อ เวลา 16.30 น. เข้าพัก LQ หอประชุม อ.เมืองสตูล ทั้ง 3 คน วันที่ 14 มิถุนายน 2564 เวลา 11.30 น. รถ อบต.มารับเพื่อเข้าพัก รพ.ท่าแพ มีอาการ ไอเล็กน้อย เจ็บคอ จมูกไม่ได้รับกลิ่น และรพ.ท่าแพ เก็บตัวอย่างส่งตรวจที่ห้องปฏิบัติการเอกชน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วันที่ 15 มิถุนายน 2564 เวลา 12.30 น. ผลตรวจ   พบเชื้อ รับการรักษาที่ รพ.สนามท่าแพ

นอกจากนี้ ทีมสอบสวนโรคและทีมปฏิบัติการควบคุมโรค ได้ติดตามสืบสวนสอบสวนค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดรายที่ 1 และรายที่ 2 ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สัมผัสกลุ่มเดียวกัน จำนวน 3 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงได้นำไปกักตัวที่สถานที่กักกันตัว (LQ) มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา วิทยาเขตสตูล อ.ละงู และคนขับรถตู้ เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยรายที่หนึ่ง ให้กักตัวที่บ้าน (HQ) ผู้สัมผัสใกล้ชิดรายที่ 3 จำนวน 2 คน ซึ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงได้ไปกักตัวที่ สถานที่กักกันตัว (LQ)  มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา วิทยาเขตสตูล อ.ละงู พร้อมให้คำแนะนำให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน  โควิด-19 อย่างเคร่งครัด และอยู่ในความดูแลเฝ้าสังเกตอาการโดยหมอครอบครัว

 

สำหรับการดำเนินการ กลุ่มนักเรียนโรงเรียนตะห์ฟีซุลกรุอานมัรกัส ยะลา อีกส่วนหนึ่งที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่จังหวัดสตูล ได้แจ้งรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแล้ว จำนวน 17 คน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม. ผู้นำชุมชน ในพื้นที่ ติดตามจำนวน 34 คน รวมเป็น 51 คน ได้กักตัวไว้ทั้งหมดแล้ว โดยกักตัวที่บ้าน (HQ)  จำนวน 6 คน และกักตัวในสถานที่กักตัวที่จังหวัดจัดให้ (LQ) จำนวน 45 คน ส่วนครอบครัว เพื่อนๆ หรือบุคคลที่กลุ่มนักเรียนดังกล่าว ไปพบก่อนนำเข้าไปกักตัวได้แจ้งให้รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม. ผู้นำชุมชนในพื้นที่แนะนำให้ กักตัว ที่บ้าน เน้นย้ำเคร่งครัดสุขอนามัย และเฝ้าสังเกตอาการตนเอง หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ รีบแจ้ง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้าน หรือโทร 1669 ทันที

ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวอีกว่า สถานการณ์แบบนี้ต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาหากลูกๆ หลานๆ กลับมาจากพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ซึ่งไม่ได้เป็นผู้ที่กระทำผิดใดๆ แต่อาจจะนำเชื้อมาสู่ครอบครัวเพราะฉะนั้นขอให้เข้าสู่กระบวนการควบคุมโรคและกักกันตัวไว้สังเกตอาการตามมาตราการของจังหวัดอย่างเคร่งครัด ถ้าป่วยจะได้เข้ารับการรักษาให้หายปกติ และกลับสู่ครอบครัวต่อไป.

—————————————————-

ขอบคุณข้อมูล สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล