อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ (นายธานี แสงรัตน์) ชี้แจงกรณีมาเลเซียประกาศมาตรการให้ชาวต่างชาติที่พำนัก overstay ไม่มีวีซ่า เดินทางออกประเทศ ภายในวันที่ 21 เมษายน 2564 โดย สำนักงานตรวจเงินเข้าเมืองของมาเลเซีย ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ และสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง และสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตารู ได้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้คนไทยในมาเลเซียได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อปฏิบัติตามมาตรการ พร้อมแนะนำให้คนไทยที่อยู่ในมาเลเซียเกินกำหนด หรือ overstay คือตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 21 เมษายน 2564 เร่งดำเนินการตามข้อปฏิบัติ ภายในวันที่ 30 มิ.ย.2564 ซึ่งประกอบด้วย
1ลงทะเบียนขอเดินทางกลับประเทศไทยทางเว็บไซต์ของกรมการกงศุล
2.นำใบรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย หรือ coe ที่ได้จากการดาวน์โหลดจาการลงทะเบียนข้างต้น ซึ่งได้รับการอนุมัติ จากสถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุลใหญ่ นำไปยื่นที่ ตม. ของมาเลเซีย โดยมีค่าธรรมเนียม
3.นำไปยื่นกับ ตม.ที่ด่านพรมแดนที่จะเดินทางออกจากมาเลเซีย ค่าปรับในการอยู่เกินเวลา (500 ริงกิต) จะอยู่ที่ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่
สำหรับคนที่อยู่ในมาเลเซียตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 ถือเป็นช่วงก่อนสถานการณ์ covid-19 จึงเป็นการเข้าเมืองผิดกฎหมาย จะไม่ได้รับการยกเว้นโทษในฐานะคนตกค้าง ผิดกฎหมายเข้าเมืองของมาเลเซีย ที่มีโทษทั้งจำและปรับ จึงแนะนำผู้ที่เข้าข่ายเข้าร่วมโครงการของรัฐบาลมาเลเซีย ที่เปิดให้นัดหมาย จนท.ของมาเลเซีย เพื่อชำระค่าปรับ 500 ริงกิต ก่อนที่จะได้รับหนังสือรับรองการเดินทางกลับประเทศไทยโดยไม่ถูกจับกุม ซึ่งต้องดำเนินการ ภายในวันที่ 30 มิ.ย.2564
จึงขอให้คนไทยที่อยู่ในข่ายนี้ เร่งทำนัดหมาย กับเจ้าหน้าที่ เพราะมีคิวจำกัด ขณะที่โควต้าเดินทางกลับไทยนั้น ยังมีอยู่โดยตลอด ทั้งทางบกและทางอากาศ โดยมาตรการนี้ จะยกเว้นผู้ที่อยู่ในรัฐซาบาห์ และรัฐซาราวัก รวมถึงเขตปกครองพิเศษลาบวน ที่จะประกาศรายละเอียดของโครงการแยกต่างหากหลังจากนี้ สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊กเพจ ของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์