Wednesday, 5 February 2025

ความอยู่รอดของไทยในสถานการณ์โลก กับทิศทางการเมืองระหว่างประเทศในภูมิภาค

29 Jan 2021
1266

“ประเทศใคร-ประเทศมัน” เพราะมันมาแน่!  ทั้งจีน-ทั้งอเมริกัน เป็นทั้งเพื่อนรัก เป็นทั้งญาติสนิท คบกันได้ ซบไหล่กอดกันได้   แต่ต้องเข้าใจ ว่าการกอดซบไหล่ ไม่ได้หมายถึงว่า “จริงใจ-ลึกซึ้ง” ต่อกัน แต่มันหมายถึง ต่างคนต่างซ่อนหน้าและซ่อนแววตาต่อกันตะหาก!

ต่อจากนี้ ไม่เพียงการเมือง “ในประเทศ” เท่านั้น ที่เดินเร็ว  “การเมืองโลก” โดยเฉพาะในภูมิภาค “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ยิ่งจะเร็วกว่า!   ทรัมป์ นั้นของหลอก  ไบเดน คือของจริง ในขบวนการไซออนิสต์” อำนาจเดียวครองโลก”!จักรวรรดิอำนาจตะวันตก จะไม่ “รบในบ้าน” เพราะมันเข็ดจนฉลาด  ฉะนั้น พื้นที่ตะวันออก, อินโด-แปซิฟิก เตรียมปรับใบเรือให้ตรงทิศทางลมเถอะ

การเมืองระหว่างประเทศ มันเป็นเรื่องผลประโยชน์ต่างตอบแทน การต่อรอง-ตกลงแต่ละเรื่อง ไม่มีคำว่า “ได้เปรียบ-เสียเปรียบ”  จะมีแต่ “ต่างฝ่าย-ต่างพอใจ” ในข้อตกลงนั้นๆ เป็นหลัก    อย่างไทยเรา จัดอยู่ในชั้น “ตีนเล็ก”  ฉะนั้น เจรจาต่อรองอะไรกับจีน กับสหรัฐฯ ไม่ต่าง “เต้นระบำบนเกือกเขา” เขานำจังหวะ เราเพียงหมุนตาม

อย่าไปนึกว่า มีคำว่า “เพื่อนเก่า-ญาติสนิท” เป็นแต้มต่อ นั่นมันแค่กระดาษห่อทอฟฟี่ ที่อมเล่นหวานๆ   การพริ้ว, การวางน้ำหนัก, การจับจังหวะ และความแม่นยำ ที่ต้องเรียกว่า “พรสวรรค์” นั่นแหละ

ทำให้ไทยเราเป็นหนาม คือ “แหลมเอง” โดยไม่ต้องเสี้ยม ทำให้รอดมาได้ ตั้งแต่สุโขทัย ถึงรัตนโกสินทร์

ถ้าไม่แหลมจริง ตอน “กุบไลข่าน” เหยียบอาณาจักรน่านเจ้า “จีน-ยูนนาน” แหลกกระเจิง ไม่เหลือเราถึงวันนี้หรอก  “อาณาจักรสุโขทัย” เท่าขี้ตาแมว “กุบไลข่าน” กลับเว้นไว้นั่นไม่เพราะลีลาการเมืองระหว่างประเทศ ด้วย “บรรพบุรุษไทย” เป็นเลิศดอกหรือ?  นี่ก็จะพันปีอยู่แล้ว….ทั้งภูมิภาค มีแต่ไทย “ประเทศเดียว” ที่ยืดอกร้องเพลงชาติได้ “เพลงชาติ” ของไทย บ่งบอกความเป็น “เอกราช” โดดเด่นในตัว

“เอกราช” นั้น รูปธรรมคือ “พระมหากษัตริย์”  เพราะชาติเรามีพระมหากษัตริย์เป็นแก่น-เป็นแกนชาติจึงทำให้รอดจากการ “ล่าอาณานิคม” มาทุกยุค-ทุกสมัย  ตั้งแต่สุโขทัย นับจาก “พ่อขุนบางกลางท่าว”  มาอยุธยา ในยุค “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” และในยุค “สมเด็จพระนารายณ์มหาราช”  กระทั่งยุคกรุงธนบุรี “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ต่อด้วยยุครัตนโกสินทร์  “พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช”  และ “พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว”เป็นต้นฯ  ( เปลวสีเงิน คนปลายซอย  29 ม.ค.64 )

นอกจากความทุกข์ยากลำบากจากโรคระบาดที่มวลมนุษยชาติต้องประสบกันอยู่ในเวลานี้แล้ว  การถ่วงดุลอำนาจอย่างชาญฉลาดเพื่อผลประโยชน์ของแผ่นดินและคนไทยของรัฐบาล รวมถึงความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ เพื่อร่วมด้วยช่วยกันนำพาชาติบ้านเมืองเดินหน้าต่อไปด้วยความพอดีพอเพียงเพื่อความอยู่รอดของไทยให้ประชาชนโดยรวมมีความสุขตามอัตภาพ โดยรอบรู้สถานการณ์โลกและทิศทางการเมืองระหว่างประเทศในภูมิภาคอย่างเท่าทัน

——————–