ที่สถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำประเทศไทย ได้มีการจัดนิทรรศการ “สะพานเชื่อมสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ” โดยจัดขึ้นที่ศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 12-31 สิงหาคม 2565 โดยมี ฯพณฯ อีซอม อัลยุตัยลี่ อุปทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำสถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำประเทศไทย เป็นประธานเปิดงาน โดยนิทรรศการที่จัดขึ้นครั้งนี้เพื่อแสดงให้เห็นถึงบทบาทอันโดดเด่นของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในการช่วยเหลือ และรับใช้ศาสนาอิสลาม และประชาชาติมุสลิมทั่วโลก ภายใต้การนำที่มีวิสัยทัศน์ของผู้นำประเทศพระราชาธิบดีกษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลอาซิซ อาล ซาอูด และเจ้าชายมูฮัมหมัด บิน อับดุลอาซิซ อาลซาอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และภายใต้การติดตามอย่างใกล้ชิดจาก ฯพณฯ เชค ดร.อับดุลลาตีฟ อาลุชเชค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการศาสนา
สำหรับกิจกรรมภายในงานได้มีการจัดแสดงวีดีทัศน์ที่เกี่ยวกับผลงานต่างๆ รวมไปถึงภารกิจด้านงานจิตอาสาการช่วยเหลือพี่น้องคนไทยในทุกภูมิภาคของประเทศไทย รวมไปถึงการแสดงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย และซาอุดีอาระเบียอันช้านาน ถึงแม้ว่าเกิดเหตุการณ์ขึ้นในอดีต แต่ปัจจุบันนี้การสานสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเริ่มดีขึ้นอย่าต่อเนื่อง นับตั้งแต่มีการประกาศการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศสู่ระดับปกติ ในระหว่างการเยือนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งได้เดินทางเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 ตามคำเชิญอันทรงเกียรติของ เจ้าชายมูฮัมหมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอาซิซ อับดุลซาอูด มกุฎราชกุมาร
ทาง ฯพณฯ อีซอม อัลยุตัยลี่ อุปทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำสถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ ต่างรู้สึกยินดีถึงผลลัพธ์ของการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ในครั้งนี้ และนิทรรศการที่เรากำลังร่วมเป็นสักขีพยานอยู่นี้ คือสิ่งที่ยืนยันในเรื่องดังกล่าว ซึ่งนิทรรศการนี้ถูกจัดขึ้นพร้อมๆ กับการทดสอบการท่องจำอัลกรุอ่านระดับชาติในประเทศไทย ที่จัดโดยสำนักจุฬาราชมนตรี และคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย โดยได้รับการสนับสนุนจากราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ข้าพเจ้าขอขอบคุณรัฐบาลไทยที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานของไทยที่เกี่ยวข้อง ที่คอยอำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมที่ผ่านมา
ฯพณฯ อีซอม อัลยุตัยลี่ อุปทูตซาอุดีอาระเบีย กล่าวอีกว่า ความจริงแล้วความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุฯ นั้นมีมานานมากแล้ว แต่ด้วยปัจจัยบางอย่างทำให้มันเบาบางลงไป แต่ด้วยการอนุมัติของพระเจ้าที่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ไปเยือนอย่างเป็นทางการที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ทำให้เป็นการกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น จากวันนั้นถึงวันนี้ประมาณ 7 เดือน หลังจากที่มีข้อตกลงสร้างความสัมพันธ์ร่วมกันนั้น เพียงแค่ 7 เดือนเราก็ได้จัดกิจกรรมต่างๆ มากมายที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และก็ได้สื่อให้เห็นแล้วว่า การจัดนิทรรศการในวันนี้ โดยใช้หัวข้อว่า “สะพานเชื่อมสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ” ถือว่าเป็นสักขีพยานให้เห็นแล้ว ไทยกับซาอุฯ เรามีความสัมพันธ์ที่ดีเป็นอย่างมากแล้ว และไม่ใช่มีเพียงวันนี้ เราจะมีอย่างต่อเนื่องต่อไป ต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีไทย รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ และทุกคนที่มีส่วนร่วม รวมไปถึงประชาชนทุกคนที่ช่วยกันเป็นสะพยานเชื่อมระหว่างไทยและซาอุให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น.
—————————-