ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นดินแดนพหุวัฒนธรรม มีผู้คนกว่าร้อยละ 83 นับถือศาสนาอิสลาม แต่ก็มีคนไทยมุสลิม ไทยพุทธ คริสต์ และคนไทยเชื้อสายจีน อาศัยร่วมอยู่ด้วย ทุกคนต่างมีความต้องการให้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยุติลงอย่างถาวร และเราจะอยู่ร่วมกันแบบสงบสุขภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมอันเป็นเสน่ห์ที่สวยงามของพื้นที่แห่งนี้ จากความพยายามของภาครัฐและประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการยุติปัญหาความรุนแรงในพื้นที่มีแนวโน้มของสถานการณ์ที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ
จนกระทั่งล่าสุดหลังจากผ่านพ้นวันสำคัญของชาวไทยมุสลิม (วันรอมฏอน) และวันเทศกาลแห่งความสุขวันฮารีรายอของชาวไทยมุสลิมมาเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม กลุ่มก่อเหตุความรุนแรงเริ่มเข้ามาเคลื่อนไหวหวังทำลายความสงบสุข รับช่วงเปิดเทอมของเด็ก ๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ชาวบ้านเริ่มกลับมาสู่ความหวาดกลัวอีกครั้ง หลังจากมีเหตุการณ์ความรุนแรง จำนวน 2 เหตุการณ์ เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 65 มีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงพร้อมอาวุธสงครามครบมือ บุกเข้าโจมตีสถานีตำรวจน้ำตาบา และบริเวณด่านศุลกากรเก่า ซึ่งอยู่ใกล้กัน ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของหน่วยทหาร ตั้งอยู่เขตเทศบาลเมืองตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่ตลาดชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยกลุ่มคนร้ายได้ขว้างระเบิด และยิงถล่มใส่ฐานอย่างต่อเนื่อง บริเวณท่าเทียบเรือรัชดา ทำให้กำลังพล ร้อย.ชปด., อส.อ.ตากใบ ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย และ ต่อมาวันที่ 26 พ.ค. 65 มีเหตุการณ์ลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้า เส้นทางฮูมอลานัส-กามา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้เสาไฟฟ้าหลายสิบต้นล้มปิดเส้นทางการคมนาคม ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ และไฟดับเป็นวงกว้าง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก พวกเราขอประณามการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ใช้ความรุนแรงลอบวางระเบิดทั้ง 2 เหตุการณ์ ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บและเกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน ด้วยการทำลายระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ทำให้ประชาชนต้องตกอยู่ในความหวาดกลัว อีกทั้งเป็นช่วงเปิดเทอมของเด็กๆ ที่ผู้ปกครองจะต้องเดินทางรับส่งเด็ก ๆ ไปโรงเรียน จำเป็นต้องใช้ถนนหนทางในการเดินทาง หลังจากที่ปิดเรียนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มาเป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังเป็นการซ้ำเติมความยากลำบากของประชาชนในพื้นที่จากปัญหาโรคระบาดที่กำลังเกิดขึ้น
พวกเราขอประณามการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุและผู้อยู่เบื้องหลังการกระทำดังกล่าว จากเหตุการณ์ความรุนแรงลอบวางระเบิดทั้ง 2 เหตุการณ์ สมควรได้รับการประณามร่วมกันอย่างกว้างขวางที่กระทำการโดยไม่นึกถึงความเดือดร้อน หลักมนุษยธรรม และขัดต่อความต้องการของคนไทยทุกคนที่ต้องการยุติปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างถาวร ต้องการให้เกิดสันติสุขในพื้นที่กลับคืนมา โดยอยู่ร่วมกันแบบสงบสุขภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมอันเป็นเสน่ห์ที่สวยงามของพื้นที่แห่งนี้
——————————