Wednesday, 5 February 2025

เลขาสันนิบาตมุสลิมโลกเยี่ยมคารวะจุฬาราชมนตรี ชี้ “ความเอื้ออาทรคือเกราะป้องกันความเกลียดชังอิสลาม”

16 Feb 2022
1606

เมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ณ หอประชุมศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ  ดร.มุฮัมมัด บิน อับดุลกะรีม อัลอีซา เลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลก เดินทางเข้าคารวะจุฬาราชมนตรี  พร้อมกับพบปะพี่น้องมุสลิมในโอกาสเยือนประเทศไทย โดยมีผู้แทนจากหลายหน่วยงาน อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ สำนักจุฬาราชมนตรี คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

ดร.มุฮัมมัด บิน อับดุลกะรีม อัลอีซา มีการกล่าวปาฐกถาพิเศษในโอกาสเรื่องความความเอื้ออาทรระหว่างศาสนากับการสร้างสัมพันธภาพเป็นภาษาอาหรับ  ขณะที่ ผศ.ดร.อับดุลลอฮฺ หนุ่มสุข ประธานคณะทำงานตรวจร่างสำนวนคำวินิจฉัย(ฟัตวา)จุฬาราชมนตรี  ได้ถอดความและสรุปเนื้อหา มีใจความว่า  “  การเปิดใจ การยอมรับความเป็นอื่น(ความแตกต่าง)  หากว่าเรายังไม่ยอมรับ การสร้างสะพานการสร้างความสมานฉันท์  สะพานของการสร้างสัมพันธภาพในบรรยากาศการอยู่ร่วมกันในประเทศไทยที่เป็นพหุวัฒนธรรมก็จะไม่เกิดขึ้น”

 

นอกจากนี้การมีใจกว้าง ยอมรับในความต่างของเพื่อนต่างศาสนิกของเรา  จะนำมาสู่การสร้างสะพานจะนำไปสู่การปฏิสัมพันธ์ การพูดคุย สร้างความเข้าใจเพื่อนำไปสู่การอยู่อย่างสันติ   ซึ่งท่านเน้นย้ำว่าการเปิดใจกว้างจะต้องเป็นภาพของการปฏิบัติตามแบบอย่างสวยงามของท่านนบีมุฮัมหมัด (ซ.ล.)

ท่านยกตัวอย่าง ธรรมนูญมะดีนะฮฺ ธรรมนูญแห่งประวัติศาสตร์ในสมัยการปกครองของท่านนบีมุฮัมหมัด(ซ.ล.) ที่ให้สิทธิ เสรีภาพในการนับถือศาสนา และการเป็นพลเมืองกับทุกคนในเมืองมะดีนะฮฺ  ต้องปกป้องผลประโยชน์ร่วมกันในความหลากหลาย  คำกล่าวของอัลลอฮฺที่ว่า “ไม่มีการบังคับในการนับถือศาสนา” จะต้องยอมรับในการมีอยู่ของศาสนา

คำตอบของท่านนบีมุฮัมหมัด(ซ.ล.) เมื่อถูกถามว่า อีหม่านแบบไหนที่ดีที่สุด ซึ่งท่านบีตอบว่า 1.การอดทน  2.การมีใจเผื่อแผ่ เมตตา เอื้ออาทร  คำสอนของอิสลามในการอยู่ร่วมกับพี่น้องต่างศาสนิก มุสลิมจะต้องให้ความสำคัญในบริบทปัจจุบัน

อีกประเด็นที่สำคัญคือ การออกคำวินิจฉัยข้อกำหนดในการปฎิบัติศาสนกิจต่างๆ ต้องคำนึงถึงบริบท สถานที่ และเวลา ซึ่งคำวินิจฉัยหนึ่งนั้นไม่สามารถใช้ได้กับมุสลิมทั่วโลก เราจะต้องให้ความสนใจและให้ความสำคัญ และนี่คือสิ่งที่จะนำมาในการแก้ไขปัญหาสังคมในการอยู่ร่วมกัน 

สุดท้ายท่านชื่นชมในการตื่นตัวของพี่น้องมุสลิมไทยในการที่จะเป็นต้นแบบ ตัวอย่างที่ดีในการสร้างความสมานฉันท์ ความสงบ ร่มเย็น เพื่อเป็นเกราะป้องกันในการเผชิญหน้ากระแสความสุดโต่ง ความเกลียดกลัว ความเกลียดชังอิสลาม

นายอับดุลอาซิซ เจ๊ะมามะ กรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส/กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ให้ทัศนะว่า “ผมได้มีโอกาส รับฟังการบรรยาย จาก พณฯ เลขาธิการองค์การสันนิบาตโลกมุสลิมด้วย  เนื่องจากขึ้นมาประชุม กรรมการกลาง ฯ  การบรรยายเข้มข้น เต็มด้วยข้อมูล และสาระ และ ทันกับเหตุการณ์ปัจจุบัน ครับ”

————————–