เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 64 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมธราดล ชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ในฐานะ ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปัตตานี เป็นประธานในการประชุมติดตาม และวางมาตรการในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยในที่ประชุมมีการนำข้อกำหนดของทาง ศบค. ได้ออกมาตรการข้อกำหนดมาใหม่ ฉบับที่ 20 ทางจังหวัดปัตตานีจึงได้ออกมาตรการตามคำสั่ง และข้อกำหนดดังกล่าว มาปรับใช้ให้เข้ากับพื้นที่จังหวัดปัตตานี โดยทางจังหวัดปัตตานีได้มีคำสั่งบังคับใช้อยู่ 3 ประการที่ คือ 1 ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง ทั้ง 19 จังหวัด จะต้องเข้ามารายงานตัว เพื่อให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคคัดกรอง ว่ามีความสี่ยงสูงมาน้อยแค่ไหน ประการที่ 2 คือ สถานบันเทิง แหล่งมั่วซุ่ม ในการจำหน่ายสุรา หรือสถานที่รวมกลุ่มกันดื่มสุรา ทางจังหวัดปัตตานีมีการห้ามอย่างเด็ดขาด รวมถึง ร้านเกมส์ ร้านคาราโอเกะ ได้มีการคำสั่งให้ปิดทั้งหมด ประการที่ 3 คือ ในเรื่องของการเรียนการสอน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน สถาบันการศึกษา ให้มีการปิดการเรียนการสอนทั้งหมด และที่สำคัญก็คือ ทางจังหวัดปัตตานี ได้กำหนดจำนวนคน ถ้ามีการจัดกิจกรรมเกิน 50 คน ก็จะถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉิน ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องห้ามโดยเด็ดขาด แต่ถ้าหากว่ามีการจัดกิจกรรมไม่เกิน 50 คน ก็จะต้องอยู่ภายใต้มาตรการของสาธารณสุขได้วางกรอบไว้ หากพบว่ามีผู้ฝ่าฝืน จะมีความผิดตามกฎหมาย โดยสถานการณ์ล่าสุด ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี มีพบผู้ติดเชื้อแล้วจำนวน 7 ราย
จากข้อกังวลในเรื่องของการจำกัดจำนวนคนในการจัดกิจกรรมไม่เกิน คน 50 นั้น อาจส่งผลกระทบต่อการประกอบศาสนกิจ ของชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ เนื่องจากอยู่ในช่วงของการถือศีลอด และจะต้องมีการร่วมละหมาดตะรอเวี๊ยะ (ตะ-รอ-เวี๊ยะ) ในช่วงกลางคืนนั้น
ทาง นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ข้อกำหนดนี้เป็นไปตามมาตรการที่ทาง ศบค.กำหนด ซึ่งไม่ว่าจะเป็นพิธีของทางศาสนาไหน เราไม่ได้มองในกิจกรรมของการประกอบศาสนกิจ แต่เรามองจำนวนคนที่เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งจะต้องไม่เกิน 50 คน เพื่อเป็นการวางมาตรการร่วมกันในการป้องกันการแพร่ระบาด ส่วนการละหมาดขณะนี้ยังไม่มีการห้ามละหมาด ไม่ว่าจะละหมาดที่ไหนก็ตาม แต่ต้องใช้มาตรการจำนวนคนห้ามเกิน 50 คนเป็นหลัก เป็นตัวกำหนด ซึ่งหากพบว่ามีการฝ่าฝืนมีการจัดกิจกรรมเกินกว่า 50 คน ก็จะมีความผิดทางกฎหมาย ทั้งทั้งจำ ทั้งปรับ ซึ่งจะมีบทลงโทษอยู่แล้ว และสิ่งที่อยากจะฝากก็คือ สิ่งที่ควบคุมโรคที่ดีที่สุด ก็คือ 1 คนปัตตานีต้องสวมหน้ากากทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน หากพบว่าไม่สวนหน้ากากก็จะมีโทษปรับถึง 2 หมื่นบาท และ 2 ก็คือ คนที่เดินทางมาจาก 18 จังหวัด บวก 1 ที่มีความเสี่ยงสูง จะต้องรายงานตัวต่อ เพื่อประเมินความเสี่ยง ว่าจะต้องมีการกักตัวหรือไม ทั้งนี้เพื่อเป็นการหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อได้
——————————–